หัวข้อข่าวจาก สำนักข่าว Up Korea พูดถึงการทำศัลยกรรมที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และมีคนตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการทำศัลยกรรมทุกประเภทนั้นมีแนวโน้มการเกิดอาการแทรกซ้อนได้ จึงทำให้ผู้คนทำศัลยกรรมแก้จมูกมากขึ้นเทียบเท่ากับการทำศัลยกรรมจมูกครั้งแรก
โดยทั่วไปกรณีที่ต้องการทำ ศัลยกรรมแก้จมูก เนื่องจากไม่พอใจผลลัพธ์ จะต้องรอให้ผิวหนังและบาดแผลหายเป็นปกติเสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา 6 เดือน จนถึง 1 ปี แต่ถ้าหากบริเวณจมูกมีอาการบวมแดง หรือมีความรู้สึกเจ็บปวด จะต้องเข้าพบแพทย์ทันที ในกรณีอาจเกิดอาการอักเสบได้ หากเวลาผ่านไปแล้วผิวหนังเริ่มหดตัวจนปลายจมูกเชิดขึ้น อาจเกิดอาการแทรกซ้อนอย่างพังผืดได้
หากมีอาการอักเสบและเกิดพังผืดหลังทำศัลยกรรมจมูก จะแก้ไขโดยการถอดซิลิโคนหรือวัสดุเสริมจมูกออก และรอจนกว่าผิวหนังจะกลับมาอ่อนนุ่มจึงสามารถผ่าตัดแก้จมูกได้อีกครั้ง แต่ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าหากเกิดพังผืดแล้ว เมื่อถอดซิลิโคนออก จะทำให้จมูกยากต่อการกลับไปเป็นรูปทรงเหมือนก่อนผ่าตัด เนื่องจากผิวหนังที่มีการหดตัว ภายในมีอาการบวมและอาจเกิดแผล และจากหลายสาเหตุ เช่น ปลายจมูก, ปีกจมูก ซึ่งอาจมีการผ่าตัดควบคู่การเสริมซิลิโคน จึงทำให้รูปทรงจมูกดูไม่เป็นธรรมชาติ
เพราะฉะนั้นก่อนที่ผิวหนังจะเกิดอาการอักเสบและหดตัวหลายเป็นพังผืดอย่างสมบูรณ์ ควรรีบทำการรักษาจะดีที่สุด และอาจจะสามารถทำการผ่าตัดเพื่อแก้จมูกได้ในช่วงต้น
เนื้อหาและภาพประกอบจาก upkorea.net/news / GNG Plastic Surgery เรียบเรียงและแปลเนื้อหาโดย Queen Media Groups.,Ltd.
Komentar