ผลการค้นหา

ข่าาสารธุรกิจและศัลยกรรมเกาหลี หลังจากที่เกิดการลดลงของเงินวอนในประเทศเกาหลีใต้มากถึง 7% ซึ่งเป็นอัตราการลดที่สูงมากในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผลที่เกิดขึ้นก็คือผู้ที่เข้ารับบริการศัลยกรรมเกาหลีโดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเชิงบวก "จากการลดลงของมูลค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ที่มีความตกต่ำลงไป ซึ่งผลกระทบนี้ก็เริ่มแสดงตัวอย่างชัดเจนที่ รพ.ศัลยกรรมหลายแหล่งในเกาหลีใต้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงปลายปี เห็นได้ว่ารพ.ศัลยกรรมหลายแหล่งในเกาหลีใต้เริ่มมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของตลาด โดยมีการปรับราคาค่าศัลยกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีการปรับราคาขึ้นไปถึง 10-30% ตามกรณี รายการศัลยกรรมและโรงพยาบาล ซึ่งการปรับราคานี้ถือเป็นการปรับตัวที่สำคัญของสถานบริการศัลยกรรมในเกาหลีใต้เพื่อให้สามารถรักษาความมั่นคงและความสมดุลในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสมในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ สำหรับลูกค้าที่มีแพลนจะไปศัลยกรรมที่เกาหลีและต้องการ ประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด เราขอแนะนำวิธีดังนี้: 1. จองโปรโมชั่นล็อคราคาปัจจุบัน: นี่ไม่ใช่การส่งเสริมการขาย แต่เป็นวิธีนี้เป็นการล็อคราคาปัจจุบันของบริการศัลยกรรมที่คุณต้องการใช้ เมื่อคุณจองแล้ว ราคาที่คุณจ่ายจะเป็นราคาปัจจุบันแม้ว่าราคาของเงินวอนจะลดลงในอนาคต การล็อคราคาสามารถทำได้โดยมีกำหนดเวลาในการล็อคอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโปรโมชั่น ซึ่งการเลือกล็อคราคาในขณะที่เงินวอนยังคงมีมูลค่าสูงอาจช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก เนื่องจากค่าศัลยกรรมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามอัตราแลกเปลี่ยนของเงินวอนในอนาคต 2. แลกเงินสดเป็นสกุลเงินวอน: วิธีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเงินสดจากสกุลเงินบาทไปเป็นเงินวอนก่อนการเดินทาง คุณสามารถทำการแลกเงินที่ร้านแลกเงินหรือบริการออนไลน์แและรับเงินสดที่เกาหลีที่เชื่อถือได้ เช่น Oppa Me หรือใช้บัตรทราเวลการ์ดจากธนาคารชั้นนำ เพื่อแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินวอน โดยทำการแลกเปลี่ยนในช่วงเวลาที่เงินวอนยังมีมูลค่าต่ำ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับเงินวอนที่มีมากขึ้นในการใช้จ่ายในประเทศเกาหลีใต้ ด้วยวิธีการดังกล่าวคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมที่เกาหลีใต้ได้อย่างมากที่สุด โดยให้คำแนะนำว่าคุณควรพิจารณาและเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพความเสี่ยงของคุณที่เหมาะสมที่สุด คุณคิม ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจการแพทย์ระหว่างประเทศเกาหลีใต้ www.khunkim.com, www.oppame.com, www.kbc.co.th

รายการราคาแก้ตา 10 โรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำในเกาหลี การศัลยกรรมตาเป็นหนึ่งในการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำที่นี่ ด้านล่างนี้คือรายการราคาแก้ตาเริ่มต้นจาก 10 โรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำในเกาหลี: โรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี (ID Hospital) ราคาเริ่มต้น: 5,500,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ (Banobagi Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 6,150,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมอีพิค (Epic Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 4,600,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมเจจุน (Jayjun Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 7,650,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมจิวเวลรี่ (Jewelry Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 5,500,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมวิว (View Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 5,500,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมเอโตน (Etonne Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 6,400,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมทูบี (Tobe Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 4,407,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมดีเซ่ (Deesse Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 2,500,000 วอน โรงพยาบาลศัลยกรรมดรีม (Dream Plastic Surgery) ราคาเริ่มต้น: 6,900,000 วอน โปรดทราบว่าราคาเหล่านี้เป็นเพียงราคาเริ่มต้นและอาจแตกต่างกันไปตามความซับซ้อนและรายละเอียดของแต่ละกรณีการศัลยกรรม การปรึกษากับที่ปรึกษาศัลยกรรม Oppa Me เป็นสิ่งสำคัญเพื่อทำความเข้าใจถึงข้อมูลที่แน่นอนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด *หมายเหตุ ราคาที่แจ้งเป็นเพียงราคาเริ่มต้นเท่านั้น ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคล และโปรโมชั่นของแต่ละโรงพยาบาล ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬  LINE @oppame 📹  Tiktok @oppame.thailand 🎁  ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app   🎁 ผ่อนศัลยกรรม 0% สูงสุด 10 เดือน ตารางผ่อน >> 🌏  เว็บไซต์ศัลยกรรมเกาหลี www.oppame.com   ☎️  ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆  1 เดียวแอพผ่อนศัลยกรรมเกาหลี 🏆  1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏆   1 เดียวที่มีที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีหรือเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีมากที่สุด 🏢  1 เดียวที่มีสำนักงาน ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย สำนักข่าวเกี่ยวกับเรา ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_7731686 มติชน https://www.matichonweekly.com/publicize/article_735909 ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000057532

โบท็อกซ์ Botox ตัวยาที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการความงามเพื่อช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือแม้แต่ลดขนาดกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้อีกด้วย โดยโบท็อกซ์ Botox ในท้องตลาดนั้นมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งจะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจ และผ่านอย. สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยบ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันเลย Botox 8 แบรนด์ ที่ผ่านอย. ไทยมียี่ห้ออะไรบ้าง? 1. Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) โบท็อกซ์ระดับพรีเมียมที่มาในราคาย่อมเยา ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยี HI-PURE Technology เพื่อสารลดเลือนริ้วรอยที่มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 98.7% ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว และสามารถช่วยลดโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากถึง 6 เดือน โดย Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) มี 2 ขนาดให้เลือกใช้ คือ ขนาด 100 ยูนิต กล่องสีดำ และ ขนาด 200 ยูนิต กล่องสีแดง ซึ่งทั้ง 2 ขนาดบรรจุนั้นผ่านการรับรองจากอย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2. Allergan Botox (โบท็อกซ์อเมริกา) Allergan Botox (โบท็อกซ์อเมริกา) โบท็อกซ์ออริจินอลที่ถูกคิดค้นเป็นตัวแรกของโลกเพื่อการรักษาปัญหาผิวและสุขภาพอย่างหลากหลาย มีงานวิจัยรองรับนับพันงาน และได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ความงามทั่วโลกมาอย่างยาวนานมากกว่า 20 ปี ว่ามีฤทธิ์ลดการทำงานของกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ และผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 8 เดือนเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน Allergan Botox (โบท็อกซ์อเมริกา) ก็ยังผ่านการรับรองจากอย. ไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย โดยมี 2 ขนาดให้เลือกใช้ ได้แก่ ขนาด 50 ยูนิต กล่องขาว-แดง และ ขนาด 100 ยูนิต กล่องขาว-ม่วง  3. Xeomin Botox (โบท็อกซ์เยอรมัน) Xeomin Botox (โบท็อกซ์เยอรมัน) หรือสารลดเลือนริ้วรอยที่ขึ้นชื่อว่ามีความบริสุทธิ์สูงที่สุด เหมาะสำหรับเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์โดยเฉพาะ เนื่องจากผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษอย่าง Xtract Technology ทำให้ตัวยาปราศจากสิ่งเจือปน และสารโปรตีนที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย  นอกจากนี้ตัวยายังมีโมเลกุลที่ค่อนข้างเล็ก จึงสามารถกระจายตัวได้อย่างแม่นยำ และตรงจุด ทำให้เห็นเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเร็วภายใน 3 วัน และผลลัพธ์ที่ได้ยังออกมาสวยเป็นธรรมชาติ แสดงสีหน้าได้เต็มที่อีกด้วย และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน โดยมี 2 ขนาดบรรจุให้เลือกใช้ คือ กล่องสีชมพู ขนาด 50 ยูนิต และกล่องสีน้ำเงิน ขนาด 100 ยูนิต 4. Aestox Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Botox โบท็อกซ์ สัญชาติเกาหลีอีกหนึ่งยี่ห้อที่ขึ้นชื่อว่ามีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งมากถึง 99.5% เลยทีเดียว ทำให้ Aestox Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) เหมาะสำหรับฉีดในเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์ หรือผู้ที่กลัวดื้อโบท็อกซ์เป็นอย่างมาก และยังนิยมถูกนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าอย่างแพร่หลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ลิฟต์ติ้งยกกระชับกรอบหน้า หรือแม้แต่ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย โดย Aestox Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่ผ่านอย. ไทย และผ่านการรับรองจาก KFDA แล้วนั้นมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ต่างออกไป เริ่มตั้งแต่ 50 ยูนิต กล่องสีชมพู 100 ยูนิต กล่องสีฟ้า และ 200 ยูนิต กล่องสีส้ม 5. Dysport Botox (โบท็อกซ์อังกฤษ) Dysport Botox (โบท็อกซ์อังกฤษ) หรือ ABO Botox โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษที่ขึ้นว่ามีการกระจายตัวยาค่อนข้างกว้าง เหมาะสำหรับฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกล้ามเนื้อกรามก็ดี หรือกล้ามเนื้อตามเรือนร่าง เช่น ต้นแขน น่อง หรือแม้แต่คอ บ่า ไหล่ เพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรมก็ดี รวมถึงยังสามารถช่วยกลิ่นตัว ลดเหงื่อได้อีกด้วย นอกจากนี้ Dysport Botox (โบท็อกซ์อังกฤษ) ยังนิยมนำมาใช้ฉีดลิฟฟต์ติ้งยกกระชับใบหน้าด้วยเทคนิค ABO Lifting เพื่อหน้าเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 6 เดือน ทั้งนี้การนับยูนิตของ Dysport Botox (โบท็อกซ์อังกฤษ) จะเริ่มต้นที่ 300SU หรือเทียบเท่า 120U ของโบท็อกซ์ชนิดอื่น 6. Hugel Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Hugel Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) โบท็อกซ์ที่มีตัวยาความบริสุทธิ์ถึง 99.51% สามารถนำมาฉีดในเคสดื้อโบท็อกซ์ หรือใช้เพื่อป้องกันโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ได้เช่นกัน มีจุดเด่นคือเห็นผลไว ใช้ฉีดลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดกล้ามเนื้อแบบเร่งด่วนเห็นผลภายใน 3-7 วัน และผลลัพธ์อยู่ได้นานราว ๆ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีด Botox โบท็อกซ์ของแต่ละบุคคล โดย Hugel Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่ได้รับการรับรองจาก KFDA และผ่านอย. ไทย นั้นมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ขนาด 50 ยูนิต กล่องสีเขียว และขนาด 200 ยูนิต กล่องสีชมพูเข้ม 7. BTXA Botox (โบท็อกซ์ฮ่องกง) BTXA Botox (โบท็อกซ์ฮ่องกง) โบท็อกซ์เอเชียมาตรฐานอเมริกา เนื่องจากคิดค้นโดยผู้พัฒนาสูตรโบท็อกซ์อเมริกา ทำให้ได้สารลดเลือนริ้วรอยที่มีคุณภาพสูง สามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือดูแลปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังผ่านการรับรองจากอย. ไทย รวมถึงมาตรฐานการผลิตจาก GMP ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย ซึ่งนอกจากระยะเวลาเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเร็วหลังฉีด BTXA Botox (โบท็อกซ์ฮ่องกง) แล้ว ผลลัพธ์ยังอยู่ได้ค่อนข้างนานราว ๆ 4-6 เดือนเลยทีเดียว และสำรับขนาดบรรจุของ BTXA Botox (โบท็อกซ์ฮ่องกง) ที่ผ่านอย.ไทย นั้นจะมีเพียงขนาดเดียวเท่านั้น คือ 100 ยูนิต 8. Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) โบท็อกซ์เกาหลีที่ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical บริษัทเดียวกับ Nabota Botox โบท็อกซ์เกาหลีตัวท็อป โดยมีคุณสมบัติที่ไม่ต่างกันมากนัก คือ มีความบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว และอยู่ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ขณะเดียวกันยังโดดเด่นด้วยเทคนิค Double V Lifting ที่ออกแบบมาเพื่อการลิฟต์ติ้งหน้า ยกกระชับผิว เพิ่มกรอบหน้าชัดโดยเฉพาะ ตารางเปรียบเทียบโบท็อกซ์ Botox  8 แบรนด์     Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Allergan Botox (โบท็อกซ์อเมริกา) Xeomin Botox (โบท็อกซ์เยอรมัน) Aestox Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) Dysport Botox (โบท็อกซ์อังกฤษ) Hugel Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) BTXA Botox (โบท็อกซ์ฮ่องกง) Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) จุดเด่น -          โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง 98.7% -          เห็นผลไว ออกฤทธิ์นาน -          ได้มาตรฐานการรับรองจาก USFDA -          โบท็อกซ์ออริจินอลตัวแรกของโลก -          ออกฤทธิ์แม่นยำตรงจุด ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากที่สุด -          โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุด -          เหมาะสำหรับเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์โดยเฉพาะ -          ให้ผลลัพธ์หลังฉีดเป็นธรรมชาติมากที่สุด -          โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธ์สูง 99.5% -          เห็นผลเร็ว นิยมใช้ในเคสที่ดื้อโบท็อกซ์ -          โบท็อกซ์กระจายตัวกว้าง เห็นผลเร็ว -          เหมาะสำหรับฉีดในพื้นที่ผิวขนาดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลิฟต์ติ้งกรอบหน้า -          โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% -          เห็นผลเร็ว ออกกฤทธิ์ไว -          ราคาย่อมเยามาก ๆ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ -          โบท็อกซ์เอเชียมาตรฐานอเมริกา -          ได้มาตรฐานการผลิต GMP จากสหรัฐอเมริกา -          เห็นผลลัพธ์ค่อนข้างเร็ว -          ผู้ผลิตเดียวกับ Nabota Botox -          มีความบริสุทธิ์สูง เห็นผลไว ออกฤทธิ์นาน -          เหมาะสำหรับฉีดปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Double V Lifting ระยะเวลาผลลัพธ์ 4-6 เดือน สูงสุด 8 เดือน สูงสุด 6 เดือน 4-5 เดือน สูงสุด 7 เดือน 4-5 เดือน 4-6 เดือน 4-6 เดือน ปริมาณยูนิต 100U / 200U 50U / 100U 50U / 100U 50U / 100U / 200U 300SU / 500SU 50U / 200U 100U 100U     เรียกได้ว่าโบท็อกซ์ Botox  ที่ผ่านอย. ไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลากหลายคุณภาพให้เลือกสรร ซึ่งนอกจากจะเลือกยี่ห้อที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ความต้องการแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบท็อกซ์ Botox เหล่านั้นเป็นของแท้ ตรวจสอบกับทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายได้ และที่สำคัญต้องเข้ารับบริการฉีด โบท็อกซ์ Botox กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานด้วย

Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เห็นผลไว Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) โบท็อกซ์ที่ผลิตเจ้าเดียวกับ Nabota Botox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี หรือจากบริษัท Daewoong Pharmaceutical นั่นเอง ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และดูแลปัญหาผิวได้หลากหลาย โดยตัวยานั้นมีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนไว และอยู่ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ที่สำคัญ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) มาพร้อมกับเทคนิคการฉีด Double V Lifting ช่วยปรับหน้าเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นของ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)   Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ผลิตด้วยเทคโนโลยี HI-PURE Technology ทำให้ได้โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ใช้งานได้อย่างปลอดภัย Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ฉีดแล้วออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว ภายใน 3-7 วันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ในการฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) จะมีเทคนิคพิเศษ Double V Lifting เพื่อยกกระชับหน้าเรียวได้แบบเร่งด่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์หลังฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) สามารถใช้ฉีดรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า ลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)  ใช้ฉีดจุดไหนได้บ้าง? Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) มีคุณสมบัติในการรักษาปัญหาผิวเหมือนโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ ในท้องตลาดที่สามารถช่วยยับยั้งการทำงานกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และลดขนาดกล้ามเนื้อได้ ซึ่งเหมาะสำหรับฉีดในจุดต่าง ๆ ดังนี้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) นิยมนำมาฉีดบริเวณ Upper Face เพื่อลดเลือนและป้องกันการเกิดริ้วรอยร่องลึกแห่งวัย เช่น บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือรอยขมวดคิ้ว Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) สามารถนำมาฉีดบริเวณรอบดวงตา โดยเฉพาะบริเวณหางตา เพื่อลดเลือนรอยตีนกาได้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) สามารถฉีดบริเวณจมูกได้ เช่น บริเวณ bunny lines หรือเส้นรอยย่นจมูก บริเวณสันจมูกเพื่อรัดแกนจมูกให้เรียวสวย หรือบริเวณปีกจมูกเพื่อโบลดขนาดปีกจมูกก็ได้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) นิยมนำมาฉีดบริเวณกราม เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กและสมส่วนมากยิ่งขึ้น Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ใช้ฉีดบริเวณกรอบหน้าด้วยเทคนิค Double V Lifting เพื่อยกกระชับผิว ปรับหน้าให้เรียวสวย เห็นกรอบหน้าชัดกว่าเดิม Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) สามารถใช้ฉีดตามเรือนร่าง เช่น ต้นแขน น่อง เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ หรือฉีดตามไหล่ คอ บ่า เพื่อรักษาออฟฟิศซินโดรมก็ได้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ใช้ฉีดบริเวณรักแร้ เพื่อลดเหงื่อ รักษาภาวะเหงื่ออกเยอะ และลดกลิ่นตัวได้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)  นานไหมกว่าจะเห็นผล? สำหรับระยะเวลาการเห็นผลของ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด โดยจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 3-7 วัน สำหรับการฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย ในขณะที่ฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ลดขนาดกล้ามเนื้อจะเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ และเต็มที่ใน 1 เดือน หรือถ้าฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) เพื่อลิฟต์ติ้งหน้าด้วยเทคนิค Double V Lifting ก็สามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก ๆ เลยทีเดียว ผลลัพธ์ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)  อยู่ได้นานแค่ไหน? ผลลัพธ์ของ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคลร่วมด้วย Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) มีกี่แบบ? สำหรับ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทยนั้นมีเพียง 1 รูปแบบเท่านั้น คือขนาดบรรจุ 100 ยูนิต ตัวขวดและกล่องมีสีเขียว-ขาว Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ราคาเท่าไหร่? Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) เป็นโบท็อกซ์ที่มีราคาย่อมเยาเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับโบท็อกซ์อเมริกา หรือโบท็อกซ์เยอรมัน ซึ่งเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2,900-6,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล หรือการตั้งราคาโปรโมชั่นของคลินิกเสริมความงามนั้น ๆ พิเศษ! เมื่อจองเข้ารับบริการ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) กับทาง Oppa Me จ่ายเพียง x,xxx บาทเท่านั้น ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)   เพราะ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) เป็นโบท็อกซ์นำเข้าจากเกาหลี ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และมีราคาย่อมเยา ทำให้ค่อนข้างเป็นที่นิยมพอสมควร ฉะนั้นมีข้อควรระวังก่อนตัดสินใจฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ดังนี้ หลังฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) อาจมีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น อาการตึงผิว รอยช้ำเข็ม อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งถือเป็นอาการปกติ แนะนำปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก่อนตัดสินใจควรแน่ใจว่าสถานพยาบาล หรือคลินิกเสริมความงามที่จะไปฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) นั้นได้มาตรฐาน มีความสะอาด และมีการจดทะเบียนสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ควรเข้ารับบริการ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และต้องเป็นแพทย์ที่สามารถตรวจสอบกับทางแพทยสภาพได้ ไม่ใช่หมอปลอม หมอกระเป๋า อาจมีการหนังตาตก ตาตก มุมปากเบี้ยว หลังฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ได้ หากเข้ารับบริการกับหมอปลอม หมอกระเป๋าที่ไม่มีความรู้ความชำนาญการมากพอ ก่อนฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวยาเป็นของแท้ นำเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่โบท็อกซ์หิ้ว โบท็อกซ์ปลอม ที่อาจมีการปนเปื้อน และเมื่อนำมาฉีดจะไม่เห็นผลได้ วิธีเช็ก Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี)   ของแท้ เพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) นอกจากจะเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญการแล้ว ตัวยา Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ก็ต้องเป็นของแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวและความปลอดภัยต่อร่างกายมากที่สุด โดยมีวิธีเช็ก Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ของแท้ ดังนี้ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่ผ่านการรับรองจากอย. ไทย และสามารถใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น มีขนาดบรรจุ 100 ยูนิต กล่องสีเขียว-ขาวเท่านั้น ก่อนฉีด Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) จะต้องตรวจเช็กสภาพกล่องว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไร้รอยฉีกขาดหรือไม่ ให้แน่ใจว่าเป็นโบท็อกซ์ที่ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน บนตัวกล่องและขวดของ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) จะต้องมีเลข Lot. ที่ตรงกัน หากไม่มั่นใจสามารถตรวจสอบเลข และคลินิกที่ใช้ยากับทางบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ที่ Line: @dermacostethailand ภายในกล่องจะมีเอกสารกำกับภาษาไทย และเลขทะเบียนจดแจ้งอย. ไว้อย่างชัดเจน ตัวยาของ Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่อยู่ภายในขวดจะต้องมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวเคลือบก้นขวด ไม่มีของเหลวผสม ก่อนใช้งานจะต้องผสมน้ำเกลือแล้วดูดออกมา   Clodew Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) โบท็อกซ์พี่น้องค่ายเดียวกับ Nabota Botox (โบท็อกซ์เกาหลี) ที่มีความบริสุทธิ์สูง ฉีดแล้วลดริ้วรอยได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงไว ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน ทั้งยังโดดเด่นด้วยเทคนิคการฉีดลิฟต์ติ้งหน้าเรียว Double V Lifting สัมผัสหน้าเรียวอย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน ผ่านการรับรองจากอย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นทำธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีได้ง่ายๆ ดำเนินธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีต้องเปิดบริษัทไหม? คำตอบคือทำได้ทั้ง 2 รูปแบบ นิติบุคคล บุคคลธรรมดา ได้ทั้งหมดนี้จบในราคาเดียว 89,000 บาท (ขอใบกำกับภาษีได้) ผ่อนผ่านบัตรเครดิต 0% สูงสุด 10 เดือน เปิดธุรกิจเอเจนซี่ศัลยรรมเกาหลี บินตรงดูงานที่ รพ.เกาหลี พร้อมเริ่มต้นธุรกิจได้ทันที 🔰 คอมมิชชั่นสูง 🔰 คืนทุนจากลูกค้า1 เคส 🔰 ส่งลูกค้าได้ 40++ รพ.ไทย/เกาหลี 🔰 ลงทุนครั้งเดียวจบ ไม่มีค่าบริการรายปี ธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี รายการสิ่งที่จะได้รับ ธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี 🏆 เทรนนิ่งความรู้ศัลยกรรมออนไลน์ โดยศาสตราจารย์ลีซอกจุน 🏆 เวิร์คชอปการทำงานและการตลาด โดยคุณคิม 🏆 ทริปบินไปดูงานที่เกาหลี 3 คืน 5 วัน 🏆 เว็บไซต์ศัลยกรรมเกาหลี 🏆 โซเชียลดีเมีย (Facebook Page,LINE OA) 🏆 รีวิว B/F กว่า 1000 รีวิว 🏆 รีวิวลูกค้าใช้บริการจริง 20 เคส 🏆 กลุ่มโปรโมชั่นอัปเดตทุกเดือน บริการสนับสนุนจากเรา ธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี 🏆 บริการประเมินราคาศัลยกรรม 🏆 บริการจองโปรโมชั่น/ขอใบเสร็จจาก รพ. 🏆 บริการจองคิวผ่าตัด/ขอเอกสารเข้าประเทศ 🏆 บริการจองตั๋วบิน 🏆 บริการจองโรงแรม 🏆 บริการจองรถรับส่ง 🏆 บริการล่ามภาษาเกาหลี โปรแกรมแนะนำลูกค้าให้ มีแชทเข้าตลอด 🏆 เมื่อมีประสบการณ์ 3 เดือนขึ้นไป 🏆 ผ่านแบบทดสอบความรู้ศัลยกรรมและการทำงาน สมัครภายในเดือนมีนาคมนี้ ไปดูงานที่เกาหลีฟรี! 3 คืน 5 วัน ฟรีตั๋วบิน ฟรีโรงแรม ฟรีล่าม ฟรีรถรับส่ง ไปแบบ Private Trip ติดต่อศูนย์ธุรกิจ Korean Business Center ธุรกิจเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี ได้ที่นี่ LINE @kbcth หรือคลิกเพื่อแชท www.connextchat.com/kbcth Website www.kbc.co.th Call Center 02-109-6282 Tiktok www.tiktok.com/@korean.businesscenter Facebook Page www.facebook.com/KBCTH

“ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี?” ใครกำลังหาข้อมูลในเรื่องนี้อยู่ล่ะก็ Oppa Me มีคำตอบ! ต้องบอกว่าหน้าผากเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ได้รับความนิยมในการฉีดฟิลเลอร์มากในปัจจุบัน ไม่แพ้กับตำแหน่งอื่น ๆ เลย เพราะการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น สวยเป๊ะได้รูปตามที่ต้องการ แถมยังไม่ต้องเจ็บตัวและใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานเหมือนการเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนอีกด้วย การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร?  การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก (Forehead Filler) เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปที่ชั้นผิวบริเวณหน้าผาก เพื่อทำให้หน้าผากดูอิ่มฟูและเป็นรูปทรงตามที่ต้องการ ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง เพราะถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบจากสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา ซึ่งฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูง จึงช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดลงไปมีความชุ่มชื้นร่วมด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอยตื้นลึกและปัญหาเรื่องกระดูกยุบตัวได้ดีอีกด้วย  การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยอะไร? การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้ปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้หน้าผากไม่สวยของคุณหมดไป เช่น หน้าผากไม่เท่ากัน, หน้าผากแบน, หน้าผากบุ๋มยุบ, หน้าผากเป็นคลื่น หรือหน้าผากมีริ้วรอย เป็นต้น แต่คนที่ไม่มีปัญหาเหล่านี้บริเวณหน้าผากก็สามารถฉีดฟิลเลอร์หน้าผากได้เช่นกัน หากคุณไม่พึงพอใจกับรูปลักษณ์ของหน้าผากตนเองและอยากให้หน้าผากนูนสวยได้รูปมากขึ้น ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 30 นาที - 1 ชั่วโมง ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น มีแค่รอยเข็มเล็ก ๆ  เจ็บน้อยมากหรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย ปรับแต่งรูปทรง ความสูงความนูน ได้ตามที่ต้องการ สลายเองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง  อยู่ได้นานถึง 1 ปี (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ-รุ่นของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละบุคคล) ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี? ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี? คำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนอยากรู้! อย่างที่เราเห็นกันว่ามีฟิลเลอร์อยู่มากมายหลายยี่ห้อให้เลือกสรรกัน ทั้ง Restylane, Juvederm, Yvoire,  Neuramis, E.P.T.Q., Belotero ฯลฯ แล้วยี่ห้อไหนล่ะดีที่สุด?  จริง ๆ ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป (ทั้งในแง่ของราคาและระยะเวลาของฟิลเลอร์) และแต่ละคลินิกแต่ละโรงพยาบาล ทั้งในประเทศไทยเองและประเทศเกาหลีเอง ก็มีการเลือกใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้น Oppa Me ขอแนะนำเป็นยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดหน้าผากแทนนะคะ^^ ฟิลเลอร์ Restylane  Restylane Classic : ฟิลเลอร์เนื้อแข็งมีอนุภาคใหญ่ เหมาะกับการฉีดเติมเต็มร่องลึกที่หน้าผาก Restylane Volyme : ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง เน้นการเพิ่มวอลุ่ม ช่วยให้หน้าผากดูนูนสวยอย่างธรรมชาติ Restylane SubQ : ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อหนักและแน่น เหมาะกับการฉีดหน้าผากที่มีริ้วรอยเยอะมากเป็นพิเศษ ฟิลเลอร์ ​Juvederm Juvederm Volift : ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลนิ่มปานกลาง เหมาะกับหน้าผากที่มีริ้วรอยตื้น ๆ  ​Juvederm Vobella : ฟิลเลอร์เนื้อเจลนิ่มมาก มีความละเอียดสูง เหมาะกับหน้าผากที่ต้องการความเรียบเนียน ฟิลเลอร์ Yvoire Yvoire Volume Plus : ฟิลเลอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยตื้นลึกได้ครบ และยังช่วยให้ผิวแลดูอิ่มฟูด้วย ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. E.P.T.Q. S300 : ฟิลเลอร์เนื้อแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เกาะผิวได้แน่น ใช้แก้ปัญหาริ้วรอยไปพร้อม ๆ กับสร้างหน้าผากให้ดูมีมิติได้ ฟิลเลอร์ Neuramis Neuramis Deep Lidocaine : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดปานกลาง ใช้ปั้นทรงบริเวณหน้าผากได้ดี ฟิลเลอร์ Belotero Belotero Soft : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ บนหน้าผากได้ดี Belotero Balance : ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดปานกลาง ใช้แก้ปัญหาร่องลึกต่าง ๆ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬 LINE @oppame www.connextchat.com/oppame 📹 www.tiktok.com/@oppame.thailand 🎁 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน) 🌏 www.oppame.com ☎️ ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆 1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏢 สำนักงาน: ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย

กระแสการฉีดฟิลเลอร์ปากกำลังมาแรงอย่างมาก เพราะสามารถปั้นทรงปากได้ตามใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวสายฝอหรือสายเกา (หลี) ก็ตาม ช่วยเปลี่ยนจากปากบาง ๆ ให้กลายเป็นปากที่อวบอิ่มน่าจุ๊บได้แบบทันใจ สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ล่ะก็ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร ฉีดฟิลเลอร์ปากดีไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดีที่สุด Oppa Me รวบรวมคำตอบมาในบทความนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า^^ การฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร? การฉีดฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปบริเวณริมฝีปาก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องรูปทรงของริมฝีปากให้สวยงามขึ้นอย่างที่ต้องการ ซึ่งฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลและยี่ห้อ-รุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือก) ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร? คนที่มีริ้วรอยบนริมฝีปาก ปากแห้ง ปากไม่ชุ่มชื้น คนที่ริมฝีปากบางต้องการให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น คนที่อยากเปลี่ยนรูปทรงปาก หรือต้องการปากกระจับ คนที่อยากเห็นผลเร็ว เจ็บน้อย หรือไม่ต้องการผ่าตัดทำปากกระจับ ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี? ผิวบริเวณริมฝีปากค่อนข้างบางและมีการขยับตัวบ่อยมาก ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดปากจะต้องให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีปัญหาเรื่องก้อนแข็งต่าง ๆ ตามมา อาทิ มีความยืดหยุ่นสูง มีความละเอียดมาก มีความอิ่มฟูปานกลาง-สูง และช่วยเติมความชุ่มชื้นได้จะดีเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่าฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี? Oppa Me ขอแนะนำตามนี้เลย! ฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน Restylane Kysse  ฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อฉีดริมฝีปากโดยเฉพาะ เนื้อละเอียดและฟูมาก แต่มีความคงตัวในระดับนึ่ง เหมาะกับการทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม สร้างขอบริมฝีปาก และช่วยปรับสีปากให้สดใสขึ้นได้ สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน Restylane Volyme  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปากกลาง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ และมีความยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน Restylane Refyne  ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งขึ้นมากว่ารุ่นอื่น ๆ จึงเหมาะกับการปั้นทรง เน้นรูปปากชัด อวบอิ่ม สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน Restylane Vital Light  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มมาก อุ้มน้ำได้ดีมาก ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นได้ดี แก้ปัญหาปากเป็นร่องและปากแห้งแตกได้ สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศอเมริกา Juvederm Ultra Plus  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและฟูมาก ฉีดแล้วปากฟูอวบอิ่มแบบสายฝอ อยู่ได้นาน 12 เดือน Juvederm Volite  ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากได้ สามารถอยู่ได้นาน 8-12 เดือน Juvederm Voluma  ฟิลเลอร์เนื้อแข็งกว่าตัวอื่น ๆ มีความฟูปานกลาง เหมาะกับเคสที่อยากได้ปากอวบอิ่มและชุ่มชื้น รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยบริเวณริมฝีปาก อยู่ได้นาน 8-12 เดือน ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬 LINE @oppame www.connextchat.com/oppame   📹 www.tiktok.com/@oppame.thailand   🎁 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน) 🌏 www.oppame.com   ☎️ ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆 1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏢 สำนักงาน: ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย

ปัญหาคางสั้น คางตัด คางยุบ คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยวไม่เท่ากันจะหมดไป ถ้าคุณได้ฉีดฟิลเลอร์คางสักครั้ง! วันนี้ Oppa Me  จะชวนคุณมาทำความรู้จักว่าฟิลเลอร์คางคืออะไรและมีข้อดีอย่างไร รวมถึงให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้าด้วยว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี ถ้าอยากรู้แล้วเราไปติดตามอ่านกันได้เลย! ฟิลเลอร์คางคือะไร? ฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) เป็นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับคางและปรับรูปร่างคางให้สวยงามรับกับใบหน้ามากขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเลย เนื่องจากเป็นการใช้สารเติมเต็ม HA (Hyaluronic Acid) หรือที่เราเรียกว่าฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดผ่านเข็มขนาดเล็กเข้าไปเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บริเวณคาง ซึ่งหลังจากการฉีดฟิลเลอร์คางอาจมีความปวดเล็กน้อย มีรอยเข็มเล็ก ๆ เหลืออยู่ แต่จะไม่มีแผลแบบการผ่าตัด รวมถึงไม่เจ็บระบมหรือใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน นอกจากนี้ ยังแทบจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังจากที่ฉีดไปแล้วเลยก็ว่าได้ ฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดีอย่างไรบ้าง? ช่วยทำให้คางยาวขึ้น แก้ปัญหาคางสั้น ส่งผลให้รูปหน้าเปลี่ยนไปด้วย แก้ปัญหาคางตัด หน้าเหลี่ยม หน้ากลม ทำให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่สวยงามขึ้น แก้ปัญหาคางบุ๋ม คางยุบ และทำให้คางดูสวยงามขึ้นตามที่ต้องการ ช่วยแก้ปัญหาคางเบี้ยว ไม่ได้สัดส่วนได้ดี มีความเป็นธรรมชาติและปลอดภัยสูง ฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี? เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์คางเป็นการฉีดเพื่อทดแทนกระดูก ดังนั้นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดคางจึงเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู ปั้นทรงขึ้นรูปได้ง่าย และมีความคงตัวสูง โดยจะมีอายุอยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกนั่นเอง ฟิลเลอร์อเมริกา : Juvederm Juvederm Voluma รุ่นนี้ตัวเนื้อฟิลเลอร์จะมีความแข็งระดับปานกลาง ฟูไม่มาก และมีความยืดหยุ่นสูง ให้ความเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน Juvederm Volux รุ่นนี้สามารถปั้นขึ้นรูปได้ง่าย มีความคงตัวสูง เหมาะกับการใช้ปรับโครงหน้ามากที่สุด สามารถอยู่ได้นาน 18-24 เดือน ฟิลเลอร์สวีเดน : Restylane ฟิลเลอร์สวีเดนแนะนำเป็น Restylane Perlane Lyft รุ่นนี้เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู มีความยืดหยุ่นและความธรรมชาติสูง ใช้ทดแทนส่วนที่เป็นกระดูกอย่างคางได้ดี สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน ฟิลเลอร์อิตาลี : Definisse ฟิลเลอร์อิตาลีหรือ Definisse แนะนำเป็นรุ่น Core (กล่องสีดำแถบสีม่วง) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ไม่ฟู มีคุณสมบัติในการคงรูปได้ดี สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน  ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ : Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์แนะนำเป็น Belotero Intense (กล่องสีชมพู) เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคงรูปได้ดีในระดับหนึ่ง สามารถใช้ฉีดทดแทนส่วนที่เป็นกระดูกและร่องลึกได้ สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬 LINE @oppame www.connextchat.com/oppame   📹 www.tiktok.com/@oppame.thailand   🎁 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน) 🌏 www.oppame.com   ☎️ ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆 1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏢 สำนักงาน: ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย

“จมูก” เป็นบริเวณที่คนส่วนใหญ่ต้องการปรับแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงามขึ้นมากที่สุด ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จมูกเองก็สามารถช่วยให้จมูกดูโด่งและสวยขึ้นได้อย่างที่ต้องการ อีกทั้งยังไม่ต้องมีแผลผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นนานหลายวันเหมือนการศัลยกรรมเสริมจมูกอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังสนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกอยู่ และไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี ลองมาอ่านข้อมูลในบทความนี้ที่ Oppa Me  เอามาฝากกันก่อนได้เลยค่ะ! การฉีดฟิลเลอร์จมูกคืออะไร? การฉีดฟิลเลอร์จมูก (Nose Filler) เป็นการใช้สารเติมเต็มหรือที่เราเรียกว่าฟิลเลอร์ ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังในจมูก จากนั้นแพทย์ก็จะปั้นทรงจมูกให้ออกมาสวยงามตามที่คนไข้ต้องการ อาทิ เพิ่มสันจมูกให้สูงขึ้น ปรับแต่งสันจมูกให้ดูเรียวเล็ก ปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้น ฯลฯ โดยตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเข้าไปในจมูกจะต้องสามารถคงรูปได้ดี มีเนื้อที่แข็งและแน่น ไม่ฟูและไม่เหลว เพราะการฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้น ตัวฟิลเลอร์จะทำหน้าที่เสมือนกระดูกอันเป็นฐานของจมูกนั่นเอง หากเลือกฟิลเลอร์เนื้อเหลวหรือตัวที่ไม่สามารถคงรูปได้ดีมาฉีดล่ะก็ อาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเปลี่ยนรูปทรงและดูบิดเบี้ยวได้นั่นเอง การฉีดฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม? การฉีดฟิลเลอร์จมูกไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากตัวฟิลเลอร์แท้ที่ฉีดเข้าไปถูกสร้างมาเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติของร่างกายที่มีชื่อว่า “Hyaluronic acid” หรือ “ กรดไฮยาลูรอนิค” ซึ่งสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งตัวฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำเอาไว้ จึงทำให้ผิวบริเวณจมูกดูเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี? ฉีดฟิลเลอร์จมูกยี่ห้อไหนดี? Oppa Me ขอแนะนำเป็น Restylane Perlane Lyft  เลยค่ะ ตัวนี้เป็นฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสวีเดน ใช้เทคโนโนลี NASHA ตัวเนื้อฟิลเลอร์มีอนุภาคใหญ่ แข็งและคงรูปสูง สามารถฉีดเข้าไปทดแทนบริเวณกระดูกอย่างจมูกได้ดี ฉีดแล้วจมูกไม่บวมเต่งเพราะเนื้อไม่ฟูขึ้นมา สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน และระหว่างฉีดแทบไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะรุ่นนี้มีส่วนผสมของยาชาอยู่ด้วย ฉีดฟิลเลอร์จมูกกี่ซีซีดี?  การฉีดฟิลเลอร์จมูกใช้ฟิลเลอร์แค่ 1 ซีซีก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคสและการประเมินของแพทย์ร่วมด้วย เพราะในบางเคสการฉีดฟิลเลอร์จมูกอาจไม่ต้อบโจทย์สิ่งที่คนไข้ต้องการ กรณีเช่นนี้แพทย์อาจจะแนะนำให้ศัลยกรรมจมูกแทนก็ได้ค่ะ ฉีดฟิลเลอร์จมูกกี่วันเห็นผล? หลังจากฉีดฟิลเลอร์จมูกไปแล้ว จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ในทันที แต่ผลลัพธ์เห็นนั้นจะไม่ใช่ทรงจมูกที่แท้จริง เพราะอาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้ในช่วงแรก ประกอบกับเราต้องรอให้ฟิลเลอร์เซตตัวดีเสียก่อน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรือประมาณ 1 เดือน จึงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬 LINE @oppame www.connextchat.com/oppame   📹 www.tiktok.com/@oppame.thailand   🎁 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน) 🌏 www.oppame.com   ☎️ ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆 1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏢 สำนักงาน: ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ (Temple Filler) ช่วยแก้ไขปัญหาขมับตอบอันเป็นสาเหตุทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัยได้ดี เพราะจะเป็นการนำสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือที่เราเรียกกันว่าฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดเข้าไปเพื่อให้บริเวณขมับดูเต่งเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าได้รูปสวย ดูอิ่มฟู มีชีวิตชีวา และดูอ่อนเยาว์สมวัย ซึ่งฟิลเลอร์ที่ใช้ในการนำมาฉีดขมับก็มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ แล้วเราจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีล่ะ? Oppa Me หาคำตอบมาให้แล้ว!  ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี? การฉีดฟิลเลอร์ขมับจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณข้างละ 1-2 CC เท่านั้น โดยจะขึ้นอยู่กับความลึกของขมับที่ยุบลงไปในแต่ละคน ส่วนยี่ห้อของฟิลเลอร์ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพึงพอใจของแต่ละบุคคล ซึ่งในวันนี้ Oppa Me ก็มีฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดขมับมาให้เลือกถึง 4 ยี่ห้อ 8 รุ่นเลยทีเดียว จะมีตัวไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย! ฟิลเลอร์ Neuramis Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีได้รับความนิยมมากอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยเองและประเทศเกาหลีด้วย โดยรุ่นที่เหมาะกับการนำไปฉีดขมับจะมีอยู่ 2 รุ่นคือ Neuramis Deep Classic  (กล่องสีดำ) และ Neuramis Volume Lidocaine  (กล่องสีทอง) ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันตรงที่มีความหนืดของเจลระดับปานกลาง อยู่ได้นาน 6-8 เดือน และช่วยเติมเต็มร่องลึกได้ดี แต่ต่างกันตรงที่กล่องสีดำไม่มียาชา ส่วนกล่องสีทองมียาชา ฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์ Belotero หรือฟิลเลอร์สีสันสดใส (Colorful Filler) เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แนะนำให้ใช้เป็นรุ่นกล่องสีม่วงหรือ Belotero Volume  เพราะเนื้อเจลของรุ่นนี้มีคุณสมบัติในการคงตัวสูง เหมาะสำหรับการฉีดแทนที่ในตำแหน่งที่กระดูกมีการยุบตัวอย่างบริเวณบมับ โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน ฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นอีกยี่ห้อยอดนิยมในประเทศไทย ซึ่งนำเข้าจากประเทศอเมริกาทำให้มีราคาค่อนข้างสูง ถ้าต้องการฉีดฟิลเลอร์ขมับด้วย Juvederm แนะนำเป็นรุ่น Juvederm Voluma  และ Juvederm Volux  สำหรับตัว Volume เนื้อเจลจะมีความยืดหยุ่นสูง คงตัวปานกลาง อยู่ได้นาน 18 เดือน ส่วนตัว Volux เป็นรุ่นใหม่ที่คงรูปได้ดีที่สุด ทนต่อแรงขยับได้ดี ปั้นทรงออกมาสวยเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน 18-24 เดือน ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนและเป็นยี่ห้อแรกของโลก จึงทำให้มีผู้ใช้งานมากที่สุดเลยก็ว่าได้และมีราคาสูงที่สุดด้วยเช่นกัน สำหรับรุ่นที่เหมาะกับการฉีดขมับที่สุดก็คือ Restylane Defyne  (เหมาะกับคนผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน), Restylane Volyme  (เนื้อเจลแข็งปานกลาง อิ่มฟู ดูธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน) และ Restylane Lyft  (เนื้อเจลแข็งมากที่สุด ช่วยยกกระชับได้ อยู่ได้นาน 12 เดือน) ปัญหาขมับตอบเกิดจากอะไร? ปัญหาเรื่องขมับตอบนั้นพบได้กับคนทุกเพศทุกวัยเลย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาขมับตอบขึ้นมีอยู่ 3  สาเหตุ ดังนี้ อายุ  : พออายุเรามากขึ้น ร่างกายก็จะเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา ชั้นไขมันจะหดตัวและบางลง ส่งผลให้คุณสามารถสัมผัสถึงกระดูกในร่างกายชัดเจนขึ้น ส่วนกระดูกก็จะฝ่อลงได้ เมื่อกระดูกโครงหน้าฝ่อลงก็ทำให้ขมับยุบตัวลงตามไปด้วยนั่นเอง การจัดฟัน  : การจัดฟันจะทำให้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่เคี้ยวบดอาหารมีการทำงานน้อยลงกว่าเดิม ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณขมับที่เชื่อมต่อกันทำงานน้อยลงตามไปด้วย เมื่อกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง ขนาดก็จะลีบเล็กลง และทำให้ขมับตอบได้ ร่างกายของแต่ละบุคคล  : คนเราเกิดมามีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน แน่นอนว่าโครงสร้างของกะโหลกศีรษะของแต่ละบุคคลก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บางคนมีปัญหาเรื่องขมับตอบตั้งแต่ยังอายุน้อย การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เห็นผลชัดเจน ใช้ระยะเวลาไม่นาน และอยู่ได้นาน ทำให้มีความคุ้มค่าอย่างมาก สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยู่เกาหลีใต้ หรือจะมีแพลนไปเกาหลีและกำลังมองหาคลินิกฉีดฟิลเลอร์ขมับแบบปังอยู่ ๆ ทัก  LINE @oppame มาสอบถามได้เลยค่ะ^^ ปรึกษาและจองโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่ 💬 LINE @oppame www.connextchat.com/oppame   📹 www.tiktok.com/@oppame.thailand   🎁 ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Oppa Me www.oppame.com/app (ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน) 🌏 www.oppame.com   ☎️ ศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ 02-109-6276 🏆 1 เดียวแอพพลิเคชั่นศัลยกรรมเกาหลีที่มีใบอนุญาตและใบรับประกันจากรัฐบาล ประเทศเกาหลีใต้ 🏢 สำนักงาน: ตึก Korean Beauty Center, BTS อารีย์ ประเทศไทย

การปลูกผมเป็นวิธีแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่ได้ผลดีถาวร ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการปลูกผมที่ทันสมัยและปลอดภัย หลายคนจึงเลือกไปปลูกผมที่ประเทศเกาหลีใต้ เพราะมีคลินิกปลูกผมที่มีชื่อเสียงมากมาย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีล้ำสมัย ใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะปลูกผมกับหมอเกาหลีคนไหนดี เราก็มีสุดยอดหมอเกาหลี ปลูกผมมาแนะนำกันถึง 3 ท่านเลยทีเดียว จะมีใครบ้าง ไปดูกันเลย  หมอมุนกอนฮัก Lienjang Plastic Surgery คุณหมอจากโรงพยาบาลชื่อดังที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกผมไม่แพ้กับการศัลยกรรมประเภทอื่น ใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหาผมร่วงผมบาง อยากเสริมความมั่นใจ สามารถเข้ามาให้คุณหมอผู้นี้ประเมินได้เลยว่าจะมีวิธีการใดที่ช่วยแก้ปัญหาของคุณได้บ้าง เพราะคุณหมอเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางที่ศึกษาและทำงานด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ มีประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมมาอย่างยาวนาน ว่ากันว่าคุณหมอปลูกผมมาแล้วมากกว่า 10 ล้านเส้นกันเลยทีเดียว ผู้เข้ารับบริการทุกรายต่างพึงพอใจกับการให้บริการของคุณหมอทั้งนั้น ด้วยความที่เป็นศัลยแพทย์ด้านปลูกผมโดยเฉพาะ ทำให้คุณหมอมาพร้อมเทคนิคพิเศษและวิธีการที่ช่วยให้เรามีผมดกหนาได้โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวเกินความจำเป็น ในขณะเดียวกันเองก็มีการปลูกถ่ายและจัดทรงผมของเราให้ดูเป็นธรรมชาติและมีความเหมาะสมมากที่สุด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าทำออกมาแล้วจะเหมือนกับใส่วิกอยู่ตลอดเวลา บอกเลยว่าบริเวณไรผมที่คุณหมอปลูกดูสวยเป็นธรรมชาติมากกว่าตอนที่เป็นผมเราจริงๆ ซะอีก  หมอซอเเจบอม Banobagi Plastic Surgery ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการปลูกผม ช่วยให้การปลูกผมของโรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดังแห่งนี้ถูกบอกต่อกันปากต่อปากอย่างแน่นหนา สามารถออกแบบทรงผมของเราให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวเราเอาไว้ดังเดิม ปลูกผมเหมือนไม่ได้ปลูก เพราะปลูกออกมาแล้วดูเหมือนเป็นคนผมดกดำมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าคุณเคยประสบปัญหาผมร่วงผมบางมาก่อน นอกจากจะนำเอาผมจากท้ายทอยมาปลูกบริเวณไรผมด้านหน้าเท่านั้น แต่คุณหมอยังมาพร้อมกับเทคนิคพิเศษและทักษะฝีมือที่ถูกสั่งสมจนกลายเป็นประสบการณ์ ช่วยให้การผ่าตัดของคุณประสบความสำเร็จและราบรื่นไร้อุปสรรค ผลลัพธ์ที่ออกมาจะสามารถสร้างความพึงพอใจได้อย่างแน่นอน มีการคำนวณทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นลักษณะเส้นผม ความหนา รูปหน้า ทรงหน้าผาก รวมถึงลักษณะของทรงผมที่กำลังได้รับความนิยม แถมเคสที่ผ่านมาผลลัพธ์ยังมีความคงทนถาวร ไม่จำเป็นต้องกลับมาปลูกซ้ำให้เสียทั้งเงินและเวลาแต่อย่างใด  หมอคังมุนซอก Wonjin Plastic Surgery ศัลยแพทย์ผู้นี้ในอดีตเคยเป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ของโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยประกอบ และได้รับรางวัลแพทย์ประจำบ้านชั้นนำโดยสมาคมศัลยกรรมพลาสติกเกาหลีใต้ และยังเป็นสมาชิกสมาคมศัลยกรรมความงามทั้งระดับนานาชาติและอเมริกาด้วย บอกเลยว่าฝีมือระดับโลกของแท้ ใครที่อยากปลูกผมสามารถไว้ใจให้คุณหมอดูแลได้เลย  ทางโรงพยาบาลรับประกันผลการรักษาแบบถาวร ใช้เทคนิคพิเศษที่ช่วยให้การผ่าตัดรวดเร็วทันใจและฟื้นตัวไวขึ้นกว่าเดิม ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล อยู่เกาหลีเพียง 2 สัปดาห์ก็มีผมดกหนากลับประเทศไทย ที่สำคัญคือผ่าตัดด้วยการวางยาสลบ ไม่เจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด แถมยังปลูกได้มากกว่าแค่บริเวณผม เพาะปลูกได้ทั้งคิ้ว เครา รวมถึงช่วงล่าง

การผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับเป็นวิธีการยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และความร่วงโรยของใบหน้า ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ประเทศเกาหลีใต้ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและศัล ยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่าหมอเกาหลี ผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับ 5 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมจะมีใครกันบ้าง  หมอซอยองแท ID Hospital หมอเกาหลี ผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับมือหนึ่งจากโรงพยาบาลดังในเกาหลีใต้ที่มีความชำนาญในการยกกระชับโดยเฉพาะ ฝีมือไม่ธรรมดา เป็นผู้ชำนาญการในการศัลยกรรมลบเลือนริ้วรอยเป็นพิเศษ และความสามารถด้านการยกกระชับของคุณหมอผู้นี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งเอเชียเลยทีเดียว มาพร้อมเทคนิคพิเศษที่ไม่ใช่แค่ลงมีดอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการฉีดไขมันเพื่อลบเลือนริ้วรอยด้วย ไว้ใจในผลงานได้ เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นทีมแพทย์ในรายการ Let Me In มาก่อน ช่วยพลิกโฉมคุณได้อย่างแน่นอน หมอบันแจซัง Banobagi Plastic Surhery คุณหมอที่มีฝีมือเป็นเอกด้านการยกกระชับจากโรงพยาบาลดังที่หลายคนไว้วางใจ และหลายคนอาจเคยเห็นหน้าคุณหมอผู้นี้มาแล้วจากรายการ Let Me In ในเกาหลีใต้ สามารถเปลี่ยนโฉมคุณจากคุณที่น่าดูวัย 60 ให้กลายมาเป็นวัย 30 ต้นๆ ได้ราวกับมีเวทมนต์ ยกกระชับความหย่อนคล้อยให้ตึงเปรี๊ยะเหมือนได้กลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง  หมอคิมฮยองจุน Nana Plastic Surgery คุณหมอที่มาพร้อมกับโปรไฟล์ไม่ธรรมดา จบมาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์คาทอลิกและยังเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งกับมหาวิทยาลัยมาก่อน การันตีความเป็นมืออาชีพด้วยฐานะสมาชิกสมาคมศัลยกรรมทั่วทั้งเกาหลีใต้ ประสบการณ์แน่นเอี๊ยด ยอดเยี่ยมที่สุดในการยกกระชับของโรงพยาบาลนี้ ใครจองตัวได้ บอกเลยว่าโชคดีสุดๆ  หมอคิมฮัคยอง Note Plastic Surgery อีกหนึ่งคุณหมอเกาหลี ผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับจากโรงพยาบาลดังที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย ขอกระซิบว่าโรงพยาบาลนี้โดดเด่นเรื่องการยกกระชับเป็นพิเศษ สามารถเปลี่ยนใบหน้าที่หย่อนคล้อยและเต็มไปด้วยริ้วรอยของคุณให้เต่งตึงดูสดใสเหมือนได้กลับไปอายุ 20 อีกครั้งอย่างแน่นอน ปัจจุบันเป็นถึงหัวหน้าคลินิกศัลยกรรมและยังรับจ๊อบเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมพลาสติกในโรงพยาบาลดังอีกต่างหาก จบมาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล ใครที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ต้องรู้จักคุณหมอผู้นี้อย่างแน่นอน  หมอคิมจองเบ Lienjang Plastic Surgery คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องการศัลยกรรมตกแต่งยกกระชับให้คุณดูเยาว์วัยไร้ที่ติอีกครั้ง มาพร้อมดีกรีไม่ธรรมดาเพราะจบมาจากมหาวิทยาลัยโคเรีย พ่วงด้วยตำแหน่งดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโคเรียอีกหนึ่งวุฒิ บอกเลยว่าฝีมือไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน อยู่ในสมาคมศัลยแพทย์ชื่อดังมากมายทั่วทั้งเกาหลีใต้ มาพร้อมเทคนิคการยกกระชับหน้าระดับ SMAS ดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงและลดโอกาสเกิดปัญหาซ้ำอย่างเป็นประสิทธิภาพ